โลกดิจิทัลกับความตระหนักรู้เรื่องความเป็นส่วนตัว: มุมมองใหม่ต่อ PDPA ในชีวิตประจำวัน

บทความที่จะพาคุณเข้าใจความสำคัญของความเป็นส่วนตัวในโลกดิจิทัล และทำไม PDPA จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนควรรู้ พร้อมคำแนะนำในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ต

Awareness in Digital World

ทุกวันนี้เราคงไม่ต้องพูดถึงกันแล้วว่าเป็นยุคสมัยแห่งโลกดิจิตอล ทุกอย่างในชีวิตประจำวัน เช่นการดูว่ากำลังจะมีรถประจำทางมาถึงป้ายรถเมล์หรือยัง การสั่งซื้ออาหาร หรือ ของใช้ แบบไม่เคยเจอหน้าคนขาย การโอนเงินแบบไม่จำเป็นต้องไปธนาคาร ไปจนถึงการทำธุรกิจที่ใช้การสื่อสารผ่านทางระบบประชุมทางไกล ได้ทั้งเห็นหน้าและเสียงแบบข้ามทวีปกันชัดๆ หรือการส่งข้อมูลหลาย GB ผ่านระบบ Cloud โดยเฉพาะเด็กๆที่เกิดหลัง ค.ศ. 1997 ที่ถูกเรียกจนคุ้นปากว่า Gen Z นั้น คงคิดไม่ออกว่าถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ตแล้วเราจะอยู่ได้อย่างไร

โลกดิจิตอลทำให้เราได้รับบริการและความสะดวกสบายที่คนสมัยก่อนคงไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็นจริง แต่สิ่งที่หลายคนไม่ได้คำนึงถึงก็คือความเป็นส่วนตัวที่ถูกลิดรอนไปทีละเล็กทีละน้อยจนแทบไม่รู้สึกตัว หลายปีที่ผ่านมา มีหลายคนถูกโจรกรรมข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่างๆนานา จนเกิดศัพท์อย่าง “identity theft หรือ การขโมยตัวตนบนโลกไซเบอร์.” หากมองอย่างผิวเผินก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ Account ของหลายคนถูกผูกบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร หรือ เบอร์ติดต่อเพื่อนฝูง ญาติมิตรมากมาย ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปสู่การถูกขโมยเงิน หรือ ปลอมตัวเพื่อขอเงินจากคนที่เรารู้จัก และโลกดิจิตอลยังคงเป็นแหล่งพัฒนาอาชญากรรมที่น่ากลัวอีกมากมาย จากช่องโหว่ทั้งของระบบ และความไม่รู้ของคน ส่งผลให้หลายประเทศอย่าง สหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation) หรือ ประเทศในกลุ่มอาเซียน อย่าง มาเลเซีย (the Personal Data Protection Act 2010 (PDPA) ฟิลิปปินส์ (Data Privacy Act of 2012) สิงคโปร์ (Personal Data Protection Act 2012) จึงได้กำหนดกฎหมายคุ้มครองข้อมูส่วนบุคคลขึ้น สำหรับประเทศไทย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ หรือที่หลายคนเรียกว่า กฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act, B.E. 2562) ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อ 27 พฤษภาคม 2562 และมีผลบังคับใช้เมื่อ 28 พฤษภาคม 2562 เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งประเทศได้เตรียมตัวรับมือกับกฎหมายฉบับนี้ จึงประกาศส่วนที่สำคัญไปเพียงบางส่วน โดยในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 จะเป็นวันที่ พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายทั้งฉบับ

แม้นว่าผ่านมาจะครบ 1 ปีที่เรามีกฎหมาย PDPA มา และ มีการอบรม สัมมนา ให้ความรู้อย่างกว้างขวาง แต่หลายคนก็ยังเข้าใจผิดว่าตนเองนั้นไม่เกี่ยวข้องเพราะ PDPA เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับคนทำออนไลน์ การใช้คุกกี้ในหน้าเว็บ การขายของออนไลน์ อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต หรือ เกี่ยวกับพวกขายข้อมูลแบบธนาคาร หรือ บริษัทประกัน แต่จริงๆแล้วกฎหมายนี้เกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้ “นิติบุคคล”เอาข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบดิจิตอล อยู่บนอินเตอร์เน็ต หรือ บนกระดาษก็แล้วแต่ ไปใช้ในทางที่ผิดจากวัตถุประสงค์ที่เจ้าของข้อมูลนั้นได้แจ้งความประสงค์เอาไว้ ตัวอย่างที่พบได้ง่ายที่สุด และทุกคนคุ้นเคยก็คือ การที่ธนาคารทั้งหลายทำการขายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าธนาคารให้กับที่อื่นๆ ลูกค้าธนาคารทั้งหลายจึงมักได้รับสายที่โทรมาขายประกัน ขายบัตรเครดิต ทั้งที่เราไม่เคยให้ข้อมูลเบอร์โทรกับบริษัทเหล่านั้นเลย

ด้วยกฎหมาย PDPA ฉบับนี้ อยากให้ทุกคนลองสละเวลาสอบถามเงื่อนไขของธนาคาร หรืออ่านข้อความก่อนเลือก “ยอมรับ” ใน Application มือถือ หรือ Cookie อินเตอร์เน็ตกันซักนิด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเราเอง เว็บไซต์ Application บริษัท ที่ถูกกฎหมายจะให้ทางเลือกเราเสมอ หมดแล้วกับยุคที่ต้องยอมรับเพื่อแลกข้อมูลของเรากับการรับบริการจากองค์กรใด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *